Business Tax Planning Services
“การวางแผนภาษี” (Tax Planning) คือ การเตรียมการเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ในฐานะพลเมืองดีและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้น้อยลง ไม่ต้องเสียภาษีมากจนเกินไป รวมถึงไม่ต้องชำระภาษีเพิ่มหรือเสียเบี้ยปรับโดยใช่เหตุ และยิ่งถ้าเราวางแผนภาษีได้เป็นอย่างดี เงินที่ประหยัดได้นี้ ก็สามารถนำไปต่อยอดให้ออกดอกออกผล สร้างเงินกลับมาให้เราได้อีกต่อหนึ่งด้วย
ตัวอย่างของการวางแผนภาษี เช่น
- การเลือกแหล่งรายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี
- การจัดการการใช้จ่ายหรือการลงทุนให้เหมาะสมกับการยื่นภาษี
การวางแผนภาษีไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการจัดการและใช้สิทธิที่กฎหมายให้มาเพื่อการเสียภาษีอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
การวางแผนภาษีสำหรับบริษัทเปรมกิจ การบัญชีและภาษี หรือ สำนักงานบัญชีที่มีบริการด้านการวางแผนภาษีจะเน้นไปที่การช่วยให้ลูกค้า (ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคล) สามารถบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเป้าหมายในการ ลดภาระภาษี ที่ต้องจ่ายในแต่ละปี หรือในระยะยาวอย่างเหมาะสมและสามารถจัดการได้ การวางแผนภาษีที่ดีจะช่วยให้บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจากภาษีและช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมั่นคงและโปร่งใส
โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ที่สามารถทำได้ในการวางแผนภาษี ดังนี้
การศึกษากฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง
บริษัทมีความเข้าใจในกฎหมายภาษีของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) การคำนวณและการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายหรือบริการ
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล การคำนวณภาษีเงินได้จากกำไรของบริษัทตามอัตราที่กำหนดในกฎหมาย
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่บริษัทมีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน และการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย การหักภาษีจากรายได้ที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ให้บริการหรือผู้ขาย
- ภาษีจากการโอนทรัพย์สิน (อสังหาริมทรัพย์) กรณีที่บริษัททำการซื้อขายหรือโอนทรัพย์สิน
การเลือกโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะสม
การเลือกโครงสร้างของบริษัทหรือองค์กรมีผลต่อการคำนวณภาษีอย่างมาก เช่น
- บริษัทจำกัด (Private Limited Company) ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่สามารถลดภาษีได้จากการใช้สิทธิ์ในส่วนต่าง ๆ ของกฎหมายภาษี
- ห้างหุ้นส่วน หรือ บุคคลธรรมดา อาจจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมักจะมีอัตราภาษีสูงกว่าบริษัทจำกัด แต่ก็อาจมีการหักภาษีที่ยืดหยุ่นมากกว่า
- การใช้สิทธิ์ในเรื่องการลดหย่อนภาษี การวางแผนภาษีจะต้องพิจารณาการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีที่มีอยู่ในกฎหมาย เช่น
- การลดหย่อนภาษีสำหรับการบริจาค หากบริษัททำการบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ได้รับการยกเว้นภาษีสามารถหักลดภาษีได้
- การลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์บางประเภท หากบริษัทลงทุนในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ บางครั้งอาจได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี
- การใช้ภาษีจากการฝึกอบรมหรือการศึกษา การลงทุนในการอบรมพนักงานหรือนักศึกษามักจะสามารถลดหย่อนภาษีได้
- การใช้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทสามารถตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงานเพื่อประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีได้
การจัดการกระแสเงินสด (Cash Flow)
- การเลือกช่วงเวลาในการจ่ายภาษี บริษัทอาจเลือกที่จะจ่ายภาษีในช่วงที่มีเงินสดเพียงพอหรือมีการจ่ายภาษีในเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
- การคำนวณภาษีล่วงหน้า การคำนวณและวางแผนการชำระภาษีในปีถัดไปช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ดีขึ้น
การปรับปรุงรายงานทางการเงินเพื่อการวางแผนภาษี
บริการของบริษัทจะช่วยในการตรวจสอบงบการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการบันทึกข้อมูลทางบัญชีอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากร โดยการ ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีและกฎหมายภาษี อย่างเคร่งครัด
การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนภาษีระยะยาว
บริษัทสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนภาษีระยะยาว เช่น การวางแผนภาษีสำหรับการขยายธุรกิจ การลงทุนใหม่ หรือการออกแบบโครงสร้างภาษีในกรณีที่บริษัทมีการควบรวมกิจการหรือการขยายตัวในต่างประเทศ